คณะนิติศาสตร์จึงได้เปิดสอนหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิตขึ้น ในปีการศึกษา 2548 โดยในขณะนั้น สังกัดอยู่ในคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประสงค์ จะเรียนในสาขาวิชานิติศาสตร์ และเป็นการมุ่งพัฒนาบุคลากรทั้งในหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนให้มีความรู้ทางด้านกฎหมาย โดยไม่ต้องเดินทางไปเรียนในส่วนกลาง และนำความรู้ไปใช้ในการทำงานในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจะเป็นแนวทางอีกทางหนึ่งที่ช่วยให้นโยบายการกระจายอำนาจ การปกครองส่วนท้องถิ่น ของชาติบรรลุเป้าหมาย เนื่องจากสาขาวิชานิติศาสตร์เป็นสาขาวิชาที่เป็นวิชาชีพ มีองค์กรควบคุมวิชาชีพ คือ เนติบัณฑิตยสภา และสภาทนายความ ควบคุมมาตรฐานการจัด การศึกษานักศึกษาที่จบการศึกษาสาขาวิชานิติศาสตร์ จากสถาบันอุดมศึกษาทั้งของภาครัฐและเอกชนจะต้องได้รับการรับรอง มาตรฐานการศึกษาจากองค์กรดังกล่าว จึงจะสามารถไปประกอบอาชีพทนายความ อัยการ และผู้พิพากษาได้ มหาวิทยาลัยจึงได้ประเมินผลการดำเนินงานการจัดการศึกษา ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์แล้วเห็นว่า ไม่สามารถบริหารจัดการศึกษาสาขาวิชานิติศาสตร์ให้ได้ตามมาตรฐาน การศึกษา ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานของเนติบัณฑิตยสภาและสภาทนายความได้ อันจะส่งผลเสียหายต่อนักศึกษาและมหาวิทยาลัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและวัตถุประสงค์ดังกล่าวมหาวิทยาลัยจึงได้ยกฐานะ สาขาวิชานิติศาสตร์ขึ้นเป็นคณะนิติศาสตร์โดยอนุมัติของสภามหาวิทยาลัยครั้งที่ 5/2550 เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2550 รวมระยะเวลาในการจัดการเรียนการสอนถึงปัจจุบัน รวม 9 ปี มีการผลิตบัณฑิตออกไปสู่สังคมเพื่อประกอบอาชีพทั้งของภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดทั้งการประกอบธุรกิจส่วนตัว ทั้งนี้ ในระยะเวลาข้างต้น คณะนิติศาสตร์ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรตามกรอบระยะเวลา ของการประกันคุณภาพการศึกษาซึ่งมีการพัฒนาหลักสูตรในปี พ.ศ. 2551 และ พ.ศ. 2555 ตามลำดับโดยผ่านการรับทราบของ สกอ. เป็นที่เรียบร้อย ปัจจุบันการดำเนินงานของคณะนิติศาสตร์ยังคงมีการพัฒนาในทุกๆด้าน เพื่อให้เกิดมาตรฐานทางการศึกษาแก่นักศึกษาและเพื่อตอบสนองต่อนโยบายแห่งรัฐในการส่งเสริม ให้บัณฑิตทำงานเป็นจึงมีการพัฒนาหลักสูตรนิติศาสตร์หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2559 ให้เพิ่มเติมรายวิชาสหกิจศึกษาอันเป็นไปตามแนวนโยบายของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เพื่อให้สอดคล้องต่ออัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่ว่า บัณฑิตย่อมฉลาดจัดการ